ชื่อวิทยาศาสตร์: Guaiacum officinale L.
ชื่อสามัญ: แก้วเจ้าจอม (อังกฤษ: Lignum Vitae)
แก้วเจ้าจอม เป็น ไม้กลางแจ้ง ที่เติบโตได้ดีในดินร่วนที่แม้จะมี่ความชื้น แต่ก็ระบายน้ำได้ดีค่ะ โดยสายพันธุ์ของแก้วเจ้าจอมนั้น ได้ถูกนำมาจากหมู่เกาะอินดีสตะวันออก โดยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงนำมาจากประเทศชวา (อินโดนีเซีย) ครั้งเสด็จประพาส เมื่อทรงนำเข้ามาแล้ว จึงทรงนำมาปลูกใน เขตพระราชอุทยานวังสวนสุนันทา และปัจจุบันก็มีเพียงต้นเดียวเท่านั้นที่เป็นต้นดั้งเดิม อยู่บริเวณด้านหลังเนินพระนาง หรือ พระบรมราชานุสรณ์สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์พระบรมราชเทวี และภายหลัง ได้กลายมาเป็นดอกไม้สัญลักษณ์ประจำ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทาน่ะนะคะ
ลักษณะโดยทั่วไปทางพันธุศาสตร์ของ แก้วเจ้าจอม
เป็นต้นไม้ขนาดเล็กถึงขนาดกลาง สูงราว 10 - 15 เมตร ลำ้ต้นคดงด กิ่งก้านเป็นปุ่มปม เป็นไม้ที่มีความเเข็งและหนักมาก เนื้อไม้เป็นมันและมีลักษณะเป็นเส้นประสาน ทนต่อแรงอัดและน้ำเค็ม ดังนั้น จึงนิยมที่จะนำมาใช้ทำกรอบประกับเพลาเดินเรือทะเล หรือกรอบประกับเพลาเครื่องจักในโรงงานต่าง ๆ รวมทั้งนำมากลึงทำของใช้ เช่น ทำรอก ลูกโบว์ลิ่ง เป็นต้น
นอกจากนี้แล้ว เนื่องจาก แก้วเจ้าจอม เป็นไม้ไม่ผลัดใบ และจะเติบโตในลักษณะแตกใบพุ่มแผ่กว้าง จึงเหมาะสำหรับปลูกเป็นไม้ในสนาม เพื่อให้ความร่มรื่นแก่สวนหรือบ้านได้เป็นอย่างดีน่ะนะคะ
มาถึงในส่วนของใบกันบ้างค่ะ ใบของแก้วเจ้าจอม เป็นใบประกอบแบบขนนกปลายคู่ ผิวใบมัน มีใบย่อย 2 - 3 คู่ เรียงตรงข้ามคู่แกนกลางใบประกอบ ยาว 1 - 1.5 เซนติเมตร ก้านใบประกอบยาว 0.5 - 1.0 เซนติเมตร ใบย่อยไม่มีก้าน รูปไข่กลับ รูปไข่ กว้างหรือรูปรีเบี้ยวเล็กน้อยมี 2 ชนิด คือ ใบย่อย 2 คู่ ออกดอกง่ายและชนิดใบย่อย 3 คู่ ออกดอกน้อยกว่า
แก้วเจ้าจอมนั้น ออกดอกในช่วงเดือนธันวาคม-เมษายน และเดือนสิงหาคม-ตุลาตคมค่ะ ดอกเป็นดอกเดี่ยวสีฟ้าอมม่วงหรือสีฟ้าคราม และจะจางลงเมื่อใกล้โรยมีกลิ่นหอม ผล มีเนื้อขนาดเล็ก รูปหัวใจกลับกดแบนลง สีเหลืองสดใส หรือส้มเมล็ดแข็งรูปไข่ สามารถขยายพันธุ์ได้โดยการเพาะเมล็ดหรือปักชำและ ตอนกิ่งน่ะนะคะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น