ต้นยิปโซฟิลล่า
ชื่อสามัญ : ยิบโซฟิลล่า (gypsophila, babysbreath gypsophila)
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Gypsophila paniculata L.
ตระกูล :Caryophyllaceae
ชื่อสามัญ : ยิบโซฟิลล่า (gypsophila, babysbreath gypsophila)
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Gypsophila paniculata L.
ตระกูล :Caryophyllaceae
ยิปโซฟิลลาเป็นไม้ดอกอายุหลายปี พุ่มสูง 0.80 1.20
เมตร มีเง้าใต้ดิน ทรงพุ่มโปร่ง
ลำต้นและกิ่งก้านเล็ก มีนวลเกาะทั่วผิว ชอบแสงแดดเต็มวัน ควรปลูกในโรงเรือน
ดินปลูกระบายน้ำดี เป็นด่างเล็กน้อย
ใบ :: ใบรูปใบหอกถึงรูปแถบ ปลายแหลม ใบสีเขียวอมเทา
ดอก :: ออกเป็นช่อโปร่ง มีดอกย่อยจำนวนมาก ทั้งดอกชั้นเดียวและดอกซ้อน
รูปกลมฟู ขนาด 0.5 - 0.8 เซนติเมตร กลีบดอกขาวและชมพู ดอกออกพร้อมกันทั้งช่อ
การขยายพันธุ์ :: ปักชำกิ่ง เพาะเมล็ด
***นอกจากนี้ยังมียิปโซฟิลลาอีก 2 ชนิดที่เป็นไม้ล้มลุกอายุสั้นที่นิยมปลูก
เช่น ยิปโซเจ้าสาว ซึ่งปลูกได้ทั่วไป วิธีการดูแลรักษา
ลำต้นและกิ่งก้านเล็ก มีนวลเกาะทั่วผิว ชอบแสงแดดเต็มวัน ควรปลูกในโรงเรือน
ดินปลูกระบายน้ำดี เป็นด่างเล็กน้อย
ใบ :: ใบรูปใบหอกถึงรูปแถบ ปลายแหลม ใบสีเขียวอมเทา
ดอก :: ออกเป็นช่อโปร่ง มีดอกย่อยจำนวนมาก ทั้งดอกชั้นเดียวและดอกซ้อน
รูปกลมฟู ขนาด 0.5 - 0.8 เซนติเมตร กลีบดอกขาวและชมพู ดอกออกพร้อมกันทั้งช่อ
การขยายพันธุ์ :: ปักชำกิ่ง เพาะเมล็ด
***นอกจากนี้ยังมียิปโซฟิลลาอีก 2 ชนิดที่เป็นไม้ล้มลุกอายุสั้นที่นิยมปลูก
เช่น ยิปโซเจ้าสาว ซึ่งปลูกได้ทั่วไป วิธีการดูแลรักษา
1.
รดน้ำวันละครั้งช่วงเช้า
2. ปลูกในที่มีแดดรำไร
แดดไม่แรงจนเกินไป
3. กระถางควรมีรูให้น้ำไหลออกได้รากของต้นยิปโซจะได้ไม่เน่า
4. ตัดเร็มส่วนที่เหี่ยวเฉาหรือเน่าทิ้ง
เพื่อรอการงอกของดอกใหม่
5. ใส่ปุ๋ยออสโมโค้ทบำรุงทุก 15 หรือ 30 วัน
ขั้นตอนการปลูกต้นไม้ในกระถาง
- ก่อนปลูกต้นไม้ลงในกระถาง
จะต้องเบือกกระถางให้มีขนาดพอเหมาะกับต้นไม้นั้น เมื่อได้กรถางมาแล้ว ก็หากระเบื้องแตก ประมาณ 2-3 ชิ้นวางปิดรูก้นกระถาง ทุบอิฐมอญเป็ฯก้อนเล็ก
ๆ ใส่ลงกันกระถาง สูงขึ้นมา ประมาณ 1 นิ้ว เพื่อช่วยในการระบายน้ำได้ดีขึ้น
- ผสมดินสำหรับปลูกต้นไม้ทั่วๆ ไปดังนี้ ดินร่วน 1 ส่วน ใบไม้ผุ 1 ส่วน ปุ๋ยเทศบาล 1 ส่วนใส่ลงไปประมาณครึ่งกาะถางเอาต้นไม้วางลงแล้วเอาดินที่ผสมแล้วใส่ลงไปเกือบเต็มกระถางเหลือไว้ประมาณ
1 นิ้วแล้วกดดินให้แน่น เพื่อดไม่ให้ต้นไม้ล้ม
- รดน้ำให้ชุ่ม แล้วยกไปวางในที่ร่มหรือพักไว้ในเรือนต้นไม้
จนกว่าจะตั้งตัวได้ จึงยกออกไปวางเป็นไม้ประดับ ในการปลูกไม้ใบอาจปลูกรวมกันหลาย
ๆ ชนิด ในกระถางเดียวกันก็ได้ โดยเลือกความสูง
สีและใบให้ต่างกันจะทำให้ดูสวยงามยิ่งขึ้น
- ถ้าเป็นต้นไม้สำหรับตกแต่งอาคาร เช่น
นำมาปลูกไว้ภายในบ้านต้องเลือกกระถางที่สวยงามพอสมควรหรือนำต้นไม้ที่ปลูกไว้ในกระถางแล้วมารวมลงในกระถางที่สวยงามนั้นก็ได้ แต่จะต้องมีจานรองรับน้ำเพื่อกันไม่ให้น้ำไหลออกมาภายนอกเมื่อรดน้ำ
- สำหรับต้นไม้ที่วางไว้ในอาคารบางชนิด ต้องมีการเปลี่ยนอยู่เสมอ
กล่างคือ เมื่อนำมาประดับไว้สัก 1-2 สัปดาห์ก็จะต้องเปลี่ยนออกแล้วเอาต้นอื่นมาแทน
เพื่อป้องกันมิให้ต้นไม้โทรมเร็ว
- เมื่อปลูกต้นไม้ไปนาน ๆ รากก็จะขึ้นเต็มกระถาง
ดังนั้นจึงควรมรการเปลี่ยนกระถางต้นไม้ทุกต้นอย่างน้อย ปีละ 1 ครั้ง
การเปลี่ยนกระถางต้นไม้
การเปลี่ยนกระถางต้นไม้ ไม่มีเทคนิคและขั้นตอนอะไรมากมายขั้งแรกคือ จะต้องเตรียมกระถางใบใหม่อุดรูก้นกระถาง ด้วยเศษกระเบื้องแตก หรือ อิฐมอญ แล้วใส่ดินสูตรที่ต้นไม้ต้องการลวไปในกระถางขั้นต่อมาคือ การย้ายต้นไม้ออกจากกระถางเก่า โดยจับต้นไม้ด้วยมือซ้ายหรือมือขวา ข้างใดข้างหนึ่งที่ถนัดให้ต้นไม้อยู่ระหว่างนิ้วชี้และนิ้วกลางแล้วใช้มืออีกข้างจับกระถางคว่ำลง ใช้หัวแม่มือดันดินบริเวณรูก้นกระถางเพื่อให้ต้นไม้และดินหลุดออกจากกระถาง ถ้าถอดไม่ออก็นำกระถางต้นไม้นั้นไปแช่น้ำเสียก่อนเพื่อจะได้ถอดง่ายขึ้น เมื่อถอดได้แล้วก็นำต้นไม้ พร้อมทั้งดินเก่าที่ติดมากับรากไปปลูกในกระถางใหม่เพื่อย้ายไปปลูกในกระถางใหม่เสร็จแล้ว ก็ต้องนำดินปลูกสูตรเดียวกันใส่เข้าไปรอบ ๆ กระถาง กระทุ้งให้แน่นพอสมควร แล้วจึงรดน้ำตามอีกที
การเปลี่ยนกระถางต้นไม้ ไม่มีเทคนิคและขั้นตอนอะไรมากมายขั้งแรกคือ จะต้องเตรียมกระถางใบใหม่อุดรูก้นกระถาง ด้วยเศษกระเบื้องแตก หรือ อิฐมอญ แล้วใส่ดินสูตรที่ต้นไม้ต้องการลวไปในกระถางขั้นต่อมาคือ การย้ายต้นไม้ออกจากกระถางเก่า โดยจับต้นไม้ด้วยมือซ้ายหรือมือขวา ข้างใดข้างหนึ่งที่ถนัดให้ต้นไม้อยู่ระหว่างนิ้วชี้และนิ้วกลางแล้วใช้มืออีกข้างจับกระถางคว่ำลง ใช้หัวแม่มือดันดินบริเวณรูก้นกระถางเพื่อให้ต้นไม้และดินหลุดออกจากกระถาง ถ้าถอดไม่ออก็นำกระถางต้นไม้นั้นไปแช่น้ำเสียก่อนเพื่อจะได้ถอดง่ายขึ้น เมื่อถอดได้แล้วก็นำต้นไม้ พร้อมทั้งดินเก่าที่ติดมากับรากไปปลูกในกระถางใหม่เพื่อย้ายไปปลูกในกระถางใหม่เสร็จแล้ว ก็ต้องนำดินปลูกสูตรเดียวกันใส่เข้าไปรอบ ๆ กระถาง กระทุ้งให้แน่นพอสมควร แล้วจึงรดน้ำตามอีกที
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น