ชื่อทางวิทยาศาสตร์ Vitis Vinifera Linn
องุ่น เป็นพืชยืนต้น มีลักษณะเป็นไม้พุ่มเลื้อย มีลักษณะเนื้อแข็งและมีลำต้น กิ่งถาวรอายุเกิน 1 ฤดู ถ้าปล่อยให้เจริญเติบโตตามธรรมชาติจะเลื้อยเกาะกิ่งไม้ ใบกลมขอบหยักเว้าลึก 5 พู โคนใบเว้าเป็นรูปหัวใจ ดอกออกเป็นช่อแยกแขนง ดอกย่อยขนาดเล็กสีเขียวมีหมวก จะหลุดออกเมื่อดอกบานกลีบดอกเมื่อบานสีขาว โคนเชื่อมติดกัน ปลายแยก 5 กลีบ เป็นผลเดี่ยวที่ออกเป็นพวง (เป็นผลเดี่ยวที่เกิดจากดอกช่อแต่ดอกไม่หลอมรวมกัน) ผลย่อยรูปกลมรีและฉ่ำน้ำ มีผิวนวลเกาะและรสหวาน มีสีเขียว, ม่วงแดงและม่วงดำแล้วแต่พันธุ์ ในผลมีเมล็ดประมาณ 1 - 4 เมล็ด ประเทศไทยนิยมปลูกองุ่นในแถบภาคตะวันตก เช่น อำเภอดำเนินสะดวก, จังหวัดราชบุรี อำเภอสามพรานและอำเภอนครชัยศรี, จังหวัดนครปฐม และ อำเภอบ้านแพ้ว, จังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งสามารถให้ผลผลิตได้ดี แต่เกษตรกรบางรายได้เปลี่ยนจากองุ่นเป็นพืชอื่น เนื่องจากมีปัญหาโรคแมลงระบาดมาก และแมลงดื้อยาไม่สามารถกำจัดได้ ทำให้พื้นที่ปลูกองุ่นในแถบนี้ลดลง พื้นที่ปลูกองุ่นได้ขยายไปในแถบภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือบ้างเล็กน้อย แต่มีปัญหาเรื่องโรคแมลงระบาดมากทำให้พื้นที่ปลูกองุ่นไม่ค่อยขยายเท่าที่ ควร พันธุ์องุ่นที่นิยมปลูก 1. พันธุ์ไวท์มะละกา มี 2 สายพันธุ์ คือ ชนิดผลกลมและผลยาว ลักษณะช่อใหญ่ยาว การติดผลดีผลมีสีเหลืองอมเขียว รสหวานแหลม เปลือกหนาและเหนียว ในผลหนึ่งๆ มี 1-2 เมล็ด ช่วงเวลาหลังจากตัดแต่งกิ่งจนเก็บผลได้ประมาณ 4 เดือนครึ่ง ปีหนึ่งให้ผลผลิต 2 ครั้ง ผลผลิตประมาณ 10-15 กิโลกรัม/ต้น/ครั้ง 2. พันธุ์คาร์ดินัล มีลักษณะช่อใหญ่ ผลดก ผลกลมค่อนข้างใหญ่ มีสีแดงหรือม่วงชมภู รสหวาน กรอบ เปลือกบาง จึงทำให้ผลแตกง่ายเมื่อผลแก่ในช่วงฝนตกชุก ในผลหนึ่งๆ มีเมล็ด 1-2เมล็ด ช่วงเวลาหลังจากตัดแต่งกิ่งจนเก็บผลได้ใช้เวลา 3-3 เดือนครึ่ง ในเวลา 2 ปี สามารถให้ผลผลิตได้ถึง 5 ครั้ง ผลผลิตประมาณ 10-15 ตัน/ต้น
คุณค่าทางโภชนาการและสรรพคุณ: องุ่น เป็นผลไม้ที่กระตุ้นกำลัง กระตุ้นความสดชื่นได้เร็ว เพราะน้ำตาลในอวุ่นเป็นตาลธรรมชาติ ร่างกายสามารถนำไปใช้ได้เลย โดยไม่ต้องผ่านกระบวนการย่อยใดๆ น้ำองุ่น ช่วยเร่งการเผาผลาญในร่างกายมากยิ่งขึ้น เมื่อใดก็ตามที่กินอาหารมากเกินความจำเป็นของร่างกาย ดื่มน้ำองุ่นตามไปสักแก้ว จะช่วยเผาผลาญอาหารที่เกินได้เป็นอย่างดี ซึ่งเป็นการดีต่อร่างกายเพราะเท่ากับเป็นการช่วยขจัดอาหารส่วนเกิน น้ำองุ่นนั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยแร่ธาตุต่างๆ โดยเฉพาะน้ำองุ่นสดๆ จะมีแร่ธาตุครบถ้วน ทั้งแคลเซียม คลอไรด์ ทองแดง โฟลีน เหล็ก แมกนีเซียม แมงกานีส ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม ซิลิคอน และซัลเฟอร์ น้ำองุ่นสดจึงช่วยล้างและสร้างเม็ดเลือดนอกจากนี้ยังช่วยกระตุ้นตับให้ทำ หน้าที่ฟอกเลือดอย่างมีประสิทธิภาพ องุ่นเป็นยาระบาย แก้ท้องผูกได้ดี ช่วยรักษาโรคลำไส้และบรรเทาอาการท้องผูกเรื้อรัง ผู้ที่มีปัญหาเรื่องนี้ควรกินองุ่นสดอย่างน้อย 350 กรัมต่อวัน องุ่นช่วยกระตุ้นหัวใจและมีผลต่อการเต้นของหัวใจ น้ำตาลในองุ่นสร้างพลังงานที่จำเป็นสำหรับการทำงานของหัวใจ ลดความเจ็บปวดและช่วยให้อัตราการเต้นของหัวใจเป็นปกตินอกจากนี้องุ่นยังดี ต่อตับ โดยช่วยกระตุ้นการทำงานของไกลโคเจนและน้ำดีอีกด้วย
|
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น