สำหรับวิธีการปลูกตั้งแต่เริ่มแพาะเมล็ดอุณหภูมิที่เหมาะสมในการงอกคือ 21-24 ํC แสงระหว่างเพาะเมล็ด ให้แสง 1,000-3,000 ลักซ์ อาจเพาะเมล็ดในกระบะ วัสดุเพาะควรมีpH6-6.5 โดยเรียงเมล็ดเป็นแถวเดี่ยว ไม่ต้องคลุมเมล็ดด้วยวัสดุเพาะ ระวังอย่าให้วัสดุแห้ง ควรให้ความชื้นด้วยระบบพ่นหมอก หรือให้จมน้ำจากด้านล่างกระบะเพาะเพื่อให้ความชื้นเพียงพอ และการงอกที่สม่ำเสมอในระยะแรก(1-14 วันหลังปลูก) ระยะที่ 2 (หลังปลูก 15-21 วัน) เมื่อเม็ดงอกให้นำกระบะเพาะไว้ในที่มีการระบายอากาศได้ดี อุณหภูมิ 16-21 ํC และเริ่มให้ปุ๋ย 100-150 ppmไนโตรเจน (ไนเตรท) ระวังอย่าให้อุณหภูมิกลางวันสูงกว่า 24 ํC และอย่าให้อุณหภูมิกลางคืนต่ำกว่า 15 ํC ไม่เช่นนั้นจะทำให้ต้นเป็นพุ่ม ระยะที่ 3 (หลังปลูก 22-56 วัน) ระยะนี้ต้นจะเจริญช้ามาก ต้องระวังอย่าให้อุณภูมิสูงหรือต่ำจนเกินไปเนื่องจากจะทำให้ต้นเป็นพุ่มได้ ให้ปุ๋ย 150 ppm ไนโตรเจน รักาาระดับEC ของวัสดุปลูก 0.7-1mS/cm ระยะที่ 4 (หลังปลูก 57-60วัน) ระยะนี้ต้นกล้าควรมีใบจริง 4 ใบ และพร้อมที่จะย้ายกล้าลงแปลง การย้ายกล้าต้องระวังอย่าให้รากกระทบกระเทือน และให้มีวัสดุปลูกติดรากมากที่สุด เพราะมีระบบรากที่เปราะบาง หากย้ายกล้าช้าจะทำให้ออกดอกช้า และก้านช่อดอก
ไลซิแอนทัส
ชื่อสามัญ : lisianthus, tulip gentian, texas blue bellชื่อวิทยาศาสตร์ : Eustoma grandiflorum (L.) Cass.
ตระกูล : Gentianaceae
ชื่ออื่นๆ : ไลซิแอนทัส
ถ้าดอกกุหลาบคือราชินีแห่งดอกไม้ ไลซิแอนทัส (Lisianthus)" ก็คงเปรียบได้กับนางสนมเองได้เช่นกันเพราะว่า ดอกไลซิแอนทัส เป็นไม้ดอกที่มีความสวยสดงดงามมากและมีลักษณะฟอร์มดอกเป็นช่อ ซึ่งทยอยบาน ขนส่งได้ง่ายไม่ค่อยบอบช้ำอีกทั้งอายุการปักแจกันนาน จากข้อมูลพื้นฐานทำให้ทราบว่าไลซิแอนทัส มีถิ่นกำเนิดในทวีปอเมริกาเหนือ (เท็กซัส อริโซนา โคโรราโดและเม็กซิโก ) แต่ปัจจุบัน เป้นไม้ตัดดอกชนิดใหม่ของโลกที่กำลังได้รับความนิยมสูงในตลาดต่างประเทศโดยเฉพาะในตลาดประมูลรประเทศเนเธอร์แลนด์ สำหรับในประเทศไทยยังไม่เป็นที่รู้จักหรือปลูกกันแพร่หลายนัก
การปลูกและการดูแลรักษา
สภาพดิน
ดินที่เหมาะสมในการปลูกเป็นดินที่ร่วนซุยมีการระบายน้ำดี pH 6.0-6.8 EC 1.0 mS/cm (ดิน:น้ำ 2:1) พรวนดินที่ระดับ 46 ซม. รักษาระดับอุณหภูมิดินระหว่าง 18-23 ํC ย้ายกล้าเมื่อยังเล็กและแข็งแรงอยู่ เพื่อป้องกันโรคโคนเน่า จึงไม่ควรปลูกลึกเกินไป รักษาระดับความชื้นสูงในช่วง 10 วันแรก และอย่าให้ดินแห้ง ระยะปลูก 10x15 ซม. การให้น้ำควรให้แบบหยด เพื่อป้งองกันไม่ให้มีความชื้นมากเกินไปในอากาศ หากอากาศร้อน และแดดร้อนจัด ควรพลางแสงเพื่อป้องกันไม่ให้ดอกสีซีด แต่แสงมีผลกับไลซิแอนทัส เนื่องจากไลซิแอนทัสตอบสนองต่อวันยาว ดังนั้น การให้แสงช่วงกลางคืน ระหว่าง 22.00-2.00 น. ในช่วงวันสั้น จะช่วยให้ออกดอกเร็วขึ้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น